บทรายงานการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร ไตรมาส 3/50

ที่ กผ. 198 / 2550 14 พฤศจิกายน 2550 เรื่อง บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2550 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2550 1. รายงานและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ มีกำไร สุทธิรวม 149.98 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 108.61 ล้านบาท สำหรับงวดเดียวกันของปี 2549 หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 38.1 ซึ่งสาเหตุหลักของการปรับเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานของบริษัทมีดังต่อไปนี้ 1.1 รายได้ 1.1.1 รายได้ค่าบริการ รายได้รวมสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวนทั้งสิ้น 545.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.4 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 โดยสาเหตุหลักมาจาก รายได้ค่าบริการของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในอัตราร้อยละ 81.9 มาอยู่ที่ 533.9 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณ น้ำมันที่ให้บริการในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีปริมาณเท่ากับ 1,133.9 ล้านลิตรโดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 เมื่อ เทียบกับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 และจากการปรับอัตราค่าบริการเติมน้ำมันอากาศยาน เพิ่มขึ้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ประกอบกันในไตรมาสนี้นั้น กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ ค่าบริการจากบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) จำนวน 146.6 ล้านบาท บริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) จำนวน 21.3 ล้านบาท และบริษัท บริการน้ำมันอากาศยาน จำกัด (IPS) จำนวน 1.0 ล้าน บาทตามลำดับ 1.1.2 รายได้ค่าเช่า รายได้ค่าเช่าสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวนทั้งสิ้น 7.4 ล้านบาท ลดลง 0.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก รายได้ค่าขนส่งน้ำมัน JET A-1 ของ FPT ลดลงอย่างเป็นสาระสำคัญ แม้ว่าจะได้รับรายได้ค่าเช่าระบบรับน้ำมัน ทางท่อจาก JP-One มาชดเชยบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับรายได้ค่าเช่าระบบน้ำมันทางท่อของปีที่ ผ่านมา -1- 1.1.3 รายได้อื่น รายได้อื่นสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวนทั้งรวมสิ้น 4.3 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาจำนวน 10.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 70.6 ซึ่ง ประกอบด้วยรายการสำคัญ (ก่อนหักรายการระหว่างกันดังนี้) รายได้ดอกเบี้ยรับจาก FPT สำหรับไตรมาสที่ 3 จำนวน 1.1 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ จากการจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ตามตารางการชำระหนี้และการชำระเงินต้น ก่อนกำหนดจาก FPT เป็นจำนวน 4.1 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับและส่วนลดรับจากตั๋วเงินคลังจำนวน 3.2 ล้าน บาท รายได้ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจาก บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) และบริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ของยอดสินเชื่อค้างชำระจำนวน 3.0 ล้านบาท สำหรับงบการเงิน เฉพาะของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 นี้ บริษัทฯ มีรายได้เงินปันผลรับจำนวน 72.0 ล้านบาทซึ่งเป็นเงินปัน ผลรับจาก บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) 1.2 ค่าใช้จ่าย 1.2.1 ต้นทุนการให้บริการ สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีต้นทุนการให้บริการรวมทั้ง สิ้น 214.2 ล้านบาท โดยต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 118.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 124.0 จากไตรมาสที่ 3 ปี 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้นเนื่องมาจาก 1) การเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าสัมปทานการ ให้บริการเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งบริษัทฯ ต้องจ่ายให้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ในอัตรา 0.06 บาทต่อลิตรตามปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานของบริษัทฯ ก่อนหักค่าใช้จ่ายจำนวน 58.1 ล้านบาท 2) การเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 42.0 ล้านบาทและต้นทุนการให้บริการของ TARCO และ JP-One จำนวน 26.1 ล้านบาท และ 13.9 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในไตรมาสนี้ค่าใช้จ่ายต้นทุนดำเนินงานในส่วนของค่าเช่าท่อส่งน้ำมันที่บริษัทฯ ต้องจ่าย ทอท. ปรับลดลง จำนวน 14.0 ล้านบาท 1.2.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 64.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการ เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากรายการหลักคือ การเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินของบริษัทฯ จำนวน 4.9 ล้านบาท การ เพิ่มขึ้นของภาษีโรงเรือน จำนวน 2.4 ล้านบาท นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายในการบริหารของ TARCO และ JP-One สำหรับไตรมาสนี้มีจำนวน 7.9 ล้านบาท และ 2.8 ล้านบาทตามลำดับ 1.2.3 ดอกเบี้ยจ่าย สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่ายสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2550 จำนวน 42.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาว ของบริษัทฯ จำนวน 26.0 ล้านบาท และดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินจำนวน 0.3 ล้านบาท นอกจากนั้นเป็น ดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของ TARCO และ JP-One จำนวน 14.3 ล้านบาทและ 1.6 ล้านบาทตามลำดับ -2- 1.3 สรุปผลการดำเนินงาน สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวน 150.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.4 ล้านบาทหรือร้อยละ 38.1 จากไตรมาสที่ 3 ปี 2549 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 108.6 ล้านบาท และคิดเป็น กำไรต่อหุ้นๆ ละ 0.29 บาท เป็นผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น และสำหรับกำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวน 165.5 ล้านบาทโดยเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 113.8 ล้านบาท ซึ่งผลแตกต่างของกำไรสุทธิจากงบการเงิน เฉพาะของบริษัทฯ และงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเงิน ลงทุนในบริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 44 (ปรับปรุง 2550) เรื่องงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการโดยที่กำไรสุทธิในงบการเงินรวมได้รวมผลการดำเนินงาน ของบริษัทย่อยตามสัดส่วนการถือหุ้น ในขณะที่กำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะจะรับรู้เฉพาะผลการดำเนินงานของ บริษัทใหญ่ และรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทย่อยก็ต่อเมื่อบริษัทใหญ่ได้รับเงินปันผลจากบริษัทย่อย 2. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน 2.1 สินทรัพย์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 7,358.2 ล้านบาท ลดลง 122.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2550 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ดังนี้ 2.1.1 กลุ่มบริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 556.5 ล้านบาท โดยมี รายละเอียดการได้มาและใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่สำคัญดังนี้ - กลุ่มบริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 208.2 ล้านบาท เนื่องมาจาก รายการสำคัญๆ ดังนี้ กำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2550 จำนวน 150.0 ล้านบาท ปรับด้วยรายการที่ทำให้ กระแสเงินสดเพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 83.1 ล้านบาท ค่าความนิยมตัดจำหน่าย 6.5 ล้านบาท ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 1.1 ล้านบาท สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 13.7 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านบาท สำหรับรายการที่ทำให้กระแสเงินสดลดลงได้แก่ หนี้สินหมุนเวียนอื่นลดลง 51.5 ล้านบาท และลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาท - กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 161.4 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นเงินลงทุน ในที่ดิน และสิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าจำนวน 177.5 ล้านบาท โดยเงินจ่ายล่วงหน้าค่าก่อสร้างสำหรับไตรมาสนี้ ลดลงจำนวน 12.4 ล้ นบาท และในไตรมาสนี้เงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ร ยะยาวแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลง จำนวน 4.1 ล้านบาท - กระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 159.1 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการ จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการแรกของปี 2550 จำนวน 102.0 ล้านบาท รวมถึงเงินจ่ายคืนเงินกู้ยืมระยาว จากธนาคารพาณิชย์จำนวน 50.8 ล้านบาท 2.1.2 ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์สุทธิของกลุ่มบริษัทฯ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวน 5,736.2 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการหลักๆ ดังนี้ ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์ ของบริษัทฯ จำนวน 3,388.7 ล้านบาท โดยที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์ของของ TARCO จำนวน 1,676.2 ล้านบาท และ JP-One จำนวน 678.2 ล้านบาทตามลำดับ -3- 2.1.3 ค่าความนิยม ซึ่งเกิดจากการที่บริษัทฯซื้อหุ้นของ TARCO ในราคาที่สูงกว่าราคาทุน เมื่อเดือนสิงหาคม 2546 ทำให้บริษัทฯต้องบันทึกรายการดังกล่าวเป็นค่าความนิยม จำนวน 768.0 ล้านบาท และ ตัดจำหน่ายตามอายุสัมปทาน เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยจะเริ่มตัดจำหน่ายเมื่อ TARCO เปิดให้บริการที่สนามบิน สุวรรณภูมิ ซึ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 ค่าความนิยมดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 742.2 ล้านบาท 2.2 หนี้สิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 กลุ่มบริษัทฯ มีหนี้สินรวมจำนวน 4,403.5 ล้านบาท ลดลง 170.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 2 ปี 2550 และคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1.49 ต่อ 1 เท่า โดยแบ่งเป็นรายการสำคัญๆได้ดังนี้ 2.2.1 เจ้าหนี้การค้าจำนวน 46.3 ล้านบาท ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน จำนวน 38.4 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าบริษัทอื่นจำนวน 7.8 ล้านบาท 2.2.2 ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 415.9 ล้าน บาทโดยเป็นส่วนของบริษัทฯ จำนวน 251.6 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 146.3 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 18.0 ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีจำนวน 9.6 ล้านบาท 2.2.3 ส่วนของเงินประกันผลงานที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 108.3 ล้านบาทโดย เป็นส่วนของบริษัทฯ จำนวน 25.8 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 58.1 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 24.4 ล้านบาท 2.2.4 หนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 105.3 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ได้แก่ ภาษี เงินได้นิติบุคคลค้างจ่ายจำนวน 35.4 ล้านบาท เจ้าหนี้อื่นจำนวน 24.8 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 45.1 ล้านบาท 2.2.5 เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารจำนวน 3,509.5 ล้านบาท ลดลง 81.4 ล้านบาท จากสิ้น ไตรมาส 2 ปี 2550 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.3 โดยประกอบด้วย - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 558.7 ล้านบาท บริษัทฯ ได้ ทำการยืดอายุสัญญาเงินกู้เป็น 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเงินต้นปีละ 2 งวด โดยงวดแรก จำนวน 88.9 ล้านบาทชำระคืนแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 และงวดที่ 2 จำนวน 50.8 ล้านบาท ชำระคืนในเดือน สิงหาคม 2550 - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,850.0 ล้านบาท ระยะเวลา คืนเงินกู้ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดปี 2557 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน + 1.25% - เงินกู้ยืมระยะยาวของ TARCO จำนวน 998.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) จำนวน 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ยLibor + 1.75% และจำนวน 595.0 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน + 1.75% อายุสัญญา 10 ปี นับจากปี 2545 ระยะเวลาปลอดการชำระ เงินต้น 5 ปี นอกจากนี้ TARCO ได้กู้เงินเพิ่มจำนวน 170.0 ล้านบาทจาก BBL ที่อัตราดอกเบี้ย MLR - 2.5% โดย ส่วนลดจะลดลง 0.25% ทุกๆ 6 เดือนนับจากวันทำสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 จนถึงอัตราดอกเบี้ย สูงสุดที่ MLR - 1.5% -4- - เงินกู้ยืมระยะยาวของ JP-One จำนวน 102.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่อัตราดอกเบี้ย MLR - 2.5% โดยส่วนลดจะลดลง 0.25% ทุกๆ 6 เดือนนับจากวันทำ สัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 จนถึงอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ MLR - 1% ระยะเวลาปลอดการชำระเงินต้นถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2550 อายุสัญญาประมาณ 7 ปี 2.3. ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 กลุ่มบริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 2,954.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้น ไตรมาส 2 ปี 2550 จำนวน 48.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.7 3. ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต บริษัทฯ มีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ TARCO ในวงเงินสินเชื่อ 870.0 ล้านบาท และ 8.0 ล้านเหรียญสหรัฐ และรวมถึงดอกเบี้ยตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ผู้ให้สินเชื่อใช้ไปในการ ฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ ซึ่งภาระหนี้สินจะเกิดขึ้นเมื่อ TARCO ผิดนัดไม่ชำระหนี้ที่ค้ำประกันและถูกฟ้องร้อง ดำเนินคดีจนถึงที่สุด ถูกบังคับคดีนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาดแล้วเหลือหนี้สินอีกเท่าไร คือภาระที่บริษัทฯ ต้องรับผิดชดใช้ให้แก่ผู้ให้สินเชื่อ TARCO มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 จำนวน 67.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อย ละ 46.1 โดยมีรายได้จากค่าบริการจำนวน 146.6 ล้านบาท มีต้นทุนดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 26.1 ล้านบาทและ 7.9 ล้านบาทตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ JP-One ตาม สัดส่วนการถือหุ้นในอัตราร้อยละ 50 ของยอดหนี้ค้างชำระสำหรับวงเงินสินเชื่อระยะยาวของ JP-One JP-One มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 จำนวน 3.4 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 15.7 โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 21.3 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารมีจำนวนทั้งสิ้น 13.9 ล้านบาท และ 2.8 ล้านบาท ตามลำดับ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ ( ม.ร.ว. ศุภดิศ ดิศกุล ) กรรมการผู้จัดการ งานกฎหมายและตลาดหลักทรัพย์ โทร 02-565-3811-8 ต่อ 373 -5-