SET Announcements
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร ประจำปี 2550
ที่ กผ. 031 / 2551
25 กุมภาพันธ์ 2551
เรื่อง บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2550
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2550
1. รายงานและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานในปี 2550 สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 543.3 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 461.5 ล้านบาท ในปี 2549 หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 17.7 โดยรายละเอียดของ
การปรับเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานของบริษัทมีดังต่อไปนี้
1.1 รายได้
รายได้รวมสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ประจำปี 2550 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,258.1
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 725.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.3 เทียบกับปี 2549 โดยมีรายละเอียดคือ
1.1.1 รายได้ค่าบริการ
รายได้ค่าบริการสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในอัตราร้อยละ
53.8 มาอยู่ที่ 2,186.2 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่ให้บริการใน ปี 2550 มีปริมาณเท่ากับ 4,588 ล้านลิตรโดย
มีอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในปี 2549 โดยเป็นรายได้ค่าบริการจาก
บริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) จำนวน 610.3 ล้านบาท บริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท
จำกัด (JP-One) จำนวน 87.8 ล้านบาท และบริษัท บริการน้ำมันอากาศยาน จำกัด (IPS) จำนวน 4.6 ล้านบาท
ตามลำดับ
1.1.2 รายได้ค่าเช่า
รายได้ค่าเช่าสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2550 มีจำนวนทั้งสิ้น 20.2 ล้านบาท
ลดลง 10.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.5 เมื่อเทียบกับปี 2549 โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าขนส่งน้ำมัน JET A-1
ของ FPT ลดลงอย่างเป็นสาระสำคัญ แม้ว่าจะได้รับรายได้ค่าเช่าระบบรับน้ำมันทางท่อจาก JP-One มาชดเชยบ้าง
แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับรายได้ค่าเช่าระบบน้ำมันทางท่อของปีที่ผ่านมา
1.1.3 รายได้อื่น
รายได้อื่นสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2550 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 51.7 ล้าน
บาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาจำนวน 29.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 36.3 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญ (ก่อนหัก
รายการระหว่างกันดังนี้) รายได้อื่นๆ จากการจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ตามตารางการชำระหนี้และการชำระเงินต้น
ก่อนกำหนดจาก FPT เป็นจำนวน 12.2 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับและส่วนลดรับจากตั๋วเงินคลังจำนวน 17.2
ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจาก บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) และบริษัท เจพี-วัน
แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ของยอดสินเชื่อค้างชำระจำนวน 12.1 ล้านบาท กำไรจากอัตรา
แลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของกลุ่มบริษัทฯ จำนวน 14.6 ล้านบาท และสำหรับงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ
ในปี 2550 นั้น บริษัทฯ มีรายได้เงินปันผลรับจำนวน 111.6 ล้านบาทซึ่งเป็นเงินปันผลรับจาก บริษัท ไทยเชื้อเพลิง
การบิน จำกัด (TARCO)
1.2 ค่าใช้จ่าย
1.2.1 ต้นทุนการให้บริการ
สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2550 มีต้นทุนการให้บริการรวมทั้งสิ้น 915.2
ล้านบาท โดยต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 380.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 71.1 จากปี 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลักที่
ทำให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้นเนื่องมาจาก 1) ต้นทุนค่าสัมปทานการให้บริการเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยาน
สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งบริษัทฯ ต้องจ่ายให้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ในอัตรา 0.06
บาทต่อลิตรตามปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานของบริษัทฯ ก่อนหักค่าใช้จ่าย โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้น
239.4 ล้านบาท 2) ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่ายจำนวน 322.3 ล้านบาท โดยต้นทุนการให้บริการของ TARCO และ
JP-One จำนวน 110.2 ล้านบาท และ 54.9 ล้านบาท ตามลำดับ
1.2.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2550 มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 299.3
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.8 จากปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากรายการหลักคือ การ
เพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินของบริษัทฯ จำนวน 16.2 ล้านบาท นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายในการบริหารของ
TARCO และ JP-One สำหรับปี 2550 จำนวน 25.5 ล้านบาท และ 11.7 ล้านบาทตามลำดับ
1.2.3 ดอกเบี้ยจ่าย
สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่ายสำหรับปี 2550 จำนวน 186.2 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 105.2 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 130.0 จากปีที่ผ่านมา โดยเป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวของ
บริษัทฯ จำนวน 117.0 ล้านบาท และดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท นอกจากนั้นเป็น
ดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของ TARCO และ JP-One จำนวน 61.2
ล้านบาทและ 6.5 ล้านบาทตามลำดับ
1.3 สรุปผลการดำเนินงาน
สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ กำไรสุทธิในปี 2550 มีจำนวน 543.3 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 81.9 ล้าน
บาทหรือร้อยละ 17.7 จากปี 2549 ที่ผ่านมาซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 461.5 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นๆ ละ 1.14
บาท เป็นผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
และสำหรับกำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ สำหรับปี 2550 มีจำนวน 419.0 ล้านบาทโดย
เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 52.7 ล้านบาท ซึ่งผลแตกต่างของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะของ
บริษัทฯ และงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทฯ มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนใน
บริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 44 (ปรับปรุง 2550) เรื่อง
งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการโดยที่กำไรสุทธิในงบการเงินรวมได้รวมผลการดำเนินงานของบริษัท
ย่อยตามสัดส่วนการถือหุ้น ในขณะที่กำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะจะรับรู้เฉพาะผลการดำเนินงานของบริษัท
ใหญ่ และรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทย่อยก็ต่อเมื่อบริษัทใหญ่ได้รับเงินปันผลจากบริษัทย่อย
2. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน
2.1 สินทรัพย์
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 7,500.4 ล้านบาท ลดลง 8.3 ล้านบาท
หรือร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2549 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ดังนี้
2.1.1 กลุ่มบริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 743.5 ล้านบาท โดยมี
รายละเอียดการได้มาและใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่สำคัญดังนี้
- กลุ่มบริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 976.9 ล้านบาท เนื่องมาจาก
รายการสำคัญๆ ดังนี้ กำไรสุทธิปี 2550 จำนวน 543.3 ล้านบาท ปรับด้วยรายการที่ทำให้กระแสเงินสดเพิ่มขึ้น
ได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 322.3 ล้านบาท สำรองเผื่อผลประโยชน์พนักงานจำนวน 30.4 ล้าน
บาท ค่าความนิยมตัดจำหน่าย 25.6 ล้านบาท สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นลดลง 15.0 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้าและหนี้สิน
หมุนเวียนอื่นๆ เพิ่มขึ้น 22.5 ล้านบาท
สำหรับรายการที่ทำให้กระแสเงินสดลดลงได้แก่ ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น
จริงจำนวน 14.6 ล้านบาท รายการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 12.2 ล้านบาท และอะไหล่คงเหลือ
เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาท
- กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 725.0 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นเงินลงทุน
ในที่ดิน และสิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าจำนวน 582.9 ล้านบาท เงินฝากธนาคารที่ติดภาระค้ำประกันเพิ่มขึ้นจำนวน
149.6 ล้านบาท โดยเงินจ่ายล่วงหน้าค่าก่อสร้างสำหรับปีนี้ลดลงจำนวน 5.0 ล้านบาท และเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้
ระยะยาวแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลงจำนวน 12.2 ล้านบาท
- กระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 342.8 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการ
จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2549 และสำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2550
จำนวนรวม 195.5 ล้านบาท รวมถึงเงินจ่ายคืนเงินกู้ยืมระยาวจากธนาคารพาณิชย์จำนวน 139.7 ล้านบาท
2.1.2 ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสิ นทรัพย์เช่าและอุปกรณ์สุทธิของกลุ่มบริษัทฯ ณ วันที่ 31
ธันวาคม 2550 มีจำนวน 5,743.8 ล้านบาท โดยที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์ของของ TARCO
จำนวน 1,635.3 ล้านบาท และ JP-One จำนวน 664.2 ล้านบาทตามลำดับ
2.1.3 ค่าความนิยม ซึ่งเกิดจากการที่บริษัทฯซื้อหุ้นของ TARCO ในราคาที่สูงกว่าราคาทุน
เมื่อเดือนสิงหาคม 2546 ทำให้บริษัทฯต้องบันทึกรายการดังกล่าวเป็นค่าความนิยม จำนวน 768.0 ล้านบาท และ
ตัดจำหน่ายตามอายุสัมปทาน เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยจะเริ่มตัดจำหน่ายเมื่อ TARCO เปิดให้บริการที่สนามบิน
สุวรรณภูมิ ซึ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ค่าความนิยมดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 735.7 ล้านบาท
2.2 หนี้สิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 กลุ่มบริษัทฯ มีหนี้สินรวมจำนวน 4,460.9 ล้านบาทลดลง 381.3 ล้านบาท
หรือร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2549 และคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1.47 ต่อ 1 เท่า โดยแบ่งเป็น
รายการสำคัญๆได้ดังนี้
2.2.1 เจ้าหนี้การค้าจำนวน 60.4 ล้านบาท ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
จำนวน 43.7 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าบริษัทอื่นจำนวน 16.7 ล้านบาท
2.2.2 ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 520.5 ล้าน
บาทโดยเป็นส่วนของบริษัทฯ จำนวน 301.6 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 194.9 ล้านบาท และของ JP-One
จำนวน 24.0 ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีจำนวน
11.3 ล้านบาท
2.2.3 ส่วนของเงินประกันผลงานที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 67.1 ล้านบาทโดย
เป็นส่วนของบริษัทฯ จำนวน 9.3 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 57.8 ล้านบาท
2.2.4 หนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 170.0 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ได้แก่ ภาษี
เงินได้นิติบุคคลค้างจ่ายจำนวน 64.7 ล้านบาท เจ้าหนี้อื่นจำนวน 21.2 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน
84.1 ล้านบาท
2.2.5 เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารจำนวน 3,404.3 ล้านบาท ลดลง 497.8 ล้านบาท จากสิ้นปี
2549 หรือคิดเป็นร้อยละ 12.8 โดยประกอบด้วย
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 558.7 ล้านบาท บริษัทฯ ได้
ทำการยืดอายุสัญญาเงินกู้เป็น 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเงินต้นปีละ 2 งวด โดยชำระคืน
ในแต่ละงวด งวดละ 50.8 ล้านบาท
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,800.0 ล้านบาท ระยะเวลา
คืนเงินกู้ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดปี 2557 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน + 1.25%
- เงินกู้ยืมระยะยาวของ TARCO จำนวน 949.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร
กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) จำนวน 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ย Libor + 1.75% และจำนวน 560.0
ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน + 1.75% อายุสัญญา 10 ปี นับจากปี 2545 ระยะเวลาปลอดการชำระ
เงินต้น 5 ปี นอกจากนี้ TARCO ได้กู้เงินเพิ่มจำนวน 170.0 ล้านบาทจาก BBL ที่อัตราดอกเบี้ย MLR - 2.5% โดย
ส่วนลดจะลดลง 0.25% ทุกๆ 6 เดือนนับจากวันทำสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 จนถึงอัตราดอกเบี้ย
สูงสุดที่ MLR - 1.5%
- เงินกู้ยืมระยะยาวของ JP-One จำนวน 96.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร
กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่อัตราดอกเบี้ย MLR - 2.5% โดยส่วนลดจะลดลง 0.25% ทุกๆ 6 เดือนนับจากวันทำ
สัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 จนถึงอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ MLR - 1% ระยะเวลาปลอดการชำระเงินต้นถึง
วันที่ 31 ธันวาคม 2550 อายุสัญญาประมาณ 7 ปี
2.3. ส่วนของผู้ถือหุ้น
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 กลุ่มบริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 3,039.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี
2549 จำนวน 373.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.0
3. ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต
บริษัทฯ มีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ TARCO ในวงเงินสินเชื่อ 870.0
ล้านบาท และ 8.0 ล้านเหรียญสหรัฐ และรวมถึงดอกเบี้ยตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ผู้ให้สินเชื่อใช้ไปในการ
ฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ ซึ่งภาระหนี้สินจะเกิดขึ้นเมื่อ TARCO ผิดนัดไม่ชำระหนี้ที่ค้ำประกันและถูกฟ้องร้อง
ดำเนินคดีจนถึงที่สุด ถูกบังคับคดีนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาดแล้วเหลือหนี้สินอีกเท่าไร คือภาระที่บริษัทฯ
ต้องรับผิดชดใช้ให้แก่ผู้ให้สินเชื่อ
TARCO มีผลกำไรสุทธิในปี 2550 จำนวน 293.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 48.1
โดยมีรายได้จากค่าบริการจำนวน 610.3 ล้านบาท มีต้นทุนดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 110.2
ล้านบาทและ 25.5 ล้านบาทตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ JP-One ตาม
สัดส่วนการถือหุ้นในอัตราร้อยละ 50 ของยอดหนี้ค้างชำระสำหรับวงเงินสินเชื่อระยะยาวของ JP-One
JP-One มีผลกำไรสุทธิในปี 2550 จำนวน 16.4 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 18.7 โดยมี
รายได้ทั้งสิ้น 87.8 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารมีจำนวนทั้งสิ้น 54.9 ล้าน
บาท และ 11.7 ล้านบาท ตามลำดับ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( ม.ร.ว. ศุภดิศ ดิศกุล )
กรรมการผู้จัดการ
งานกฎหมายและตลาดหลักทรัพย์
โทร (0)-2834-8900 ต่อ 8914
โทรสาร (0)-2834-8920