บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร ไตรมาส 1/51

ที่ กผ.100/2551 8 พฤษภาคม 2551 เรื่อง บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2551 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2551 1. รายงานและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2551 สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท มีกำไรสุทธิรวม 140.8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 162.6 ล้านบาท สำหรับงวดเดียวกันของปี 2550 หรือลดลงคิดเป็นร้อย ละ 13.4 โดยรายละเอียดของการปรับเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานของบริษัทมีดังต่อไปนี้ 1.1 รายได้ รายได้รวมสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท ประจำไตรมาส 1 ปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 590.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดคือ 1.1.1 รายได้ค่าบริการ รายได้ค่าบริการสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในอัตราร้อยละ 1.5 มาอยู่ที่ 573.4 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2551 มีปริมาณเท่ากับ 1,217.2 ล้าน ลิตรโดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดย เป็นรายได้ค่าบริการจากบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) จำนวน 160.4 ล้านบาท บริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) จำนวน 20.3 ล้านบาท และบริษัท บริการน้ำมันอากาศยาน จำกัด (IPS) จำนวน 1.1 ล้านบาทตามลำดับ 1.1.2 รายได้ค่าเช่า รายได้ค่าเช่าสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท ในไตรมาส 1 ปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 5.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 61.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักมาจาก รายได้ค่าขนส่งน้ำมัน JET A-1 ของ FPT เพิ่มขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญจากการกลับมาเปิดให้บริการสายการบิน แบบจุดต่อจุดที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมา 1.1.3 รายได้อื่น รายได้อื่นสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท ในไตรมาส 1 ปี 2551 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 11.8 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาจำนวน 9.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.3 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญ (ก่อนหักรายการระหว่างกันดังนี้) รายได้อื่นๆ จากการจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ตามตารางการชำระหนี้และการชำระ เงินต้นก่อนกำหนดจาก FPT เป็นจำนวน 3.5 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับและส่วนลดรับจากตั๋วเงินคลังจำนวน 3.1 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจาก บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) และบริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ของยอดสินเชื่อค้างชำระจำนวน 2.9 ล้านบาท กำไรจากอัตรา แลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดจริงของกลุ่มบริษัท จำนวน 3.6 ล้านบาท และสำหรับงบการเงินเฉพาะของบริษัท ใน ไตรมาส 1 ปี 2551 นั้น บริษัท มีรายได้เงินปันผลรับจำนวน 3.8 ล้านบาทซึ่งเป็นเงินปันผลรับจาก บริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) 1.2 ค่าใช้จ่าย 1.2.1 ต้นทุนการให้บริการ สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท ในไตรมาส 1 ปี 2551 มีต้นทุนการให้บริการรวมทั้งสิ้น 239.9 ล้านบาท โดยต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 19.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.7 จากไตรมาส 1 ปี 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้นเนื่องมาจาก 1) ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นจำนวน 8.0 ล้านบาท 2) เงินเดือน ค่าล่วงเวลา และเงินสำรองเพื่อผลประโยชน์ของพนักงานเพิ่มขึ้น จำนวน 8.9 ล้านบาท 3) ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาท โดยต้นทุนการให้บริการของ TARCO และ JP-One จำนวน 25.3 ล้านบาท และ 13.3 ล้านบาท ตามลำดับ 1.2.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท ในไตรมาส 1 ปี 2551 มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 76.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.7 จากปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายการหลักคือ 1) ค่าเบี้ยปรับเงินเพิ่มของสรรพากรซึ่ง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ขอให้ TARCO รับชำระ แทนจากกรณีการโอนหุ้น TARCO ให้แก่ ทอท. โดยเป็นรายการพิเศษที่เกิดขึ้นจำนวน 4.6 ล้านบาท 2) ค่า เสื่อมราคาเพิ่มขึ้นจำนวน 3.8 ล้านบาท 3) เงินเดือน ค่าล่วงเวลา และเงินสำรองเพื่อผลประโยชน์ของพนักงาน เพิ่มขึ้นจำนวน 3.7 ล้านบาท 4) เงินบริจาคเพิ่มขึ้นจำนวน 1.6 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายในการบริหารของ TARCO, JP-One และ IPS สำหรับไตรมาส 1 ปี 2551 จำนวน 10.9 ล้านบาท 3.3 ล้านบาท และ 1.0 ล้านบาท ตามลำดับ 1.2.3 ดอกเบี้ยจ่าย สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท มีดอกเบี้ยจ่ายสำหรับไตรมาส 1 ปี 2551 จำนวน 42.1 ล้านบาท ลดลง 11.5 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 21.4 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นดอกเบี้ยจ่ายจาก เงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัท จำนวน 27.0 ล้านบาท และดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินจำนวน 0.5 ล้านบาท นอกจากนั้นเป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของ TARCO และ JP-One จำนวน 13.0 ล้านบาทและ 1.6 ล้านบาทตามลำดับ 1.3 สรุปผลการดำเนินงาน สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัท กำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2551 มีจำนวน 140.8 ล้านบาท ลดลง 27.8 ล้านบาทหรือร้อยละ 13.4 จากไตรมาส 1 ปี 2550 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 162.6 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นๆ ละ 0.28 บาท เป็นผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น 2. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน 2.1 สินทรัพย์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 กลุ่มบริษัท มีสินทรัพย์รวมจำนวน 7,426.8 ล้านบาท ลดลง 73.7 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2550 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ดังนี้ 2.1.1 กลุ่มบริษัท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 741.9 ล้านบาท โดยมี รายละเอียดการได้มาและใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่สำคัญดังนี้ - กลุ่มบริษัท มีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 241.5 ล้านบาท เนื่องมาจาก รายการสำคัญๆ ดังนี้ กำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2551 จำนวน 140.8 ล้านบาท ปรับด้วยรายการที่ทำให้กระแสเงิน สดเพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 86.0 ล้านบาท สำรองเผื่อผลประโยชน์พนักงานจำนวน 23.6 ล้านบาท ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยตัดจำหน่าย 6.4 ล้านบาท และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นลดลง 11.3 ล้านบาท สำหรับรายการที่ทำให้กระแสเงินสดลดลงได้แก่ ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น จริงจำนวน 3.6 ล้านบาท รายจ่ายโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 3.5 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าและ หนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ ลดลง 33.3 ล้านบาท - กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 83.2 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นเงินลงทุน ในที่ดินและสิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าจำนวน 88.3 ล้านบาท โดยเงินจ่ายล่วงหน้าค่าก่อสร้างลดลงจำนวน 1.6 ล้าน บาท และเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ระยะยาวแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลงจำนวน 3.5 ล้านบาท - กระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 159.8 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการคืน เงินกู้ยืมระยาวจากธนาคารพาณิชย์และจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงินจำนวน 155.4 ล้านบาท รวมถึง การจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อยจำนวน 3.8 ล้านบาท 2.1.2 ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์สุทธิของกลุ่มบริษัท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 มีจำนวน 5,691.0 ล้านบาท โดยเป็นที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์ของของ TARCO จำนวน 1,657.2 ล้านบาท และ JP-One จำนวน 666.6 ล้านบาทตามลำดับ 2.1.3 ค่าสัมปทานของบริษัทย่อย ซึ่งเกิดจากการที่บริษัทซื้อหุ้นของ TARCO ในราคาที่สูง กว่าราคาทุนเมื่อเดือนสิงหาคม 2546 ทำให้บริษัทต้องบันทึกรายการดังกล่าวเป็นค่าสัมปทานของบริษัทย่อย จำนวน 768.0 ล้านบาท และตัดจำหน่ายตามอายุสัมปทาน เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยจะเริ่มตัดจำหน่ายเมื่อ TARCO เปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 ค่าสัมปทานดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 729.4 ล้านบาท 2.2 หนี้สิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 กลุ่มบริษัท มีหนี้สินรวมจำนวน 4,241.0 ล้านบาทลดลง 219.9 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2550 และคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1.33 ต่อ 1 เท่า โดยแบ่งเป็น รายการสำคัญๆได้ดังนี้ 2.2.1 เจ้าหนี้การค้าจำนวน 42.5 ล้านบาท ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน จำนวน 33.0 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าบริษัทอื่นจำนวน 9.5 ล้านบาท 2.2.2 ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 555.7 ล้าน บาทโดยเป็นส่วนของบริษัท จำนวน 301.6 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 230.1 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 24.0 ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีจำนวน 11.8 ล้านบาท 2.2.3 หนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 166.6 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ได้แก่ ภาษี เงินได้นิติบุคคลค้างจ่ายจำนวน 116.9 ล้านบาท เจ้าหนี้อื่นจำนวน 3.5 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 46.2 ล้านบาท 2.2.4 เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารจำนวน 3,210.9 ล้านบาท ลดลง 193.4 ล้านบาท จากสิ้นปี 2550 หรือคิดเป็นร้อยละ 5.7 โดยประกอบด้วย - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 507.9 ล้านบาท - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,750.0 ล้านบาท - เงินกู้ยืมระยะยาวของ TARCO จำนวน 863 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแบ่งเป็น เงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐที่ปัจจุบัน TARCO ได้ทำ Currency Swap เป็นสกุล บาทแล้วจำนวน 203.8 ล้านบาท และเงินกู้สกุลบาทจำนวน 659.2 ล้านบาท - เงินกู้ยืมระยะยาวของ JP-One จำนวน 90.0 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 2.3. ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 กลุ่มบริษัท มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 3,185.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 146.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.8 3. ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต บริษัท มีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ TARCO ในยอดคงค้างสินเชื่อ ณ ปัจจุบันที่ 835.0 ล้านบาท และ 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (โดยเป็นยอดรวมหนี้สินที่ถึงกำหนดชำระใน 1 ปี) และ รวมถึงดอกเบี้ยตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ผู้ให้สินเชื่อใช้ไปในการฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ ซึ่งภาระหนี้สินจะ เกิดขึ้นเมื่อ TARCO ผิดนัดไม่ชำระหนี้ที่ค้ำประกันและถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด ถูกบังคับคดีนำทรัพย์สิน ออกขายทอดตลาดแล้วเหลือหนี้สินอีกเท่าไร คือภาระที่บริษัทต้องรับผิดชดใช้ให้แก่ผู้ให้สินเชื่อ TARCO มีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2551 จำนวน 80.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อย ละ 50.1 โดยมีรายได้จากค่าบริการจำนวน 160.4 ล้านบาท มีต้นทุนดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 25.3 ล้านบาทและ 10.9 ล้านบาทตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัท ยังมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ JP-One คิดเป็น จำนวน 57 ล้านบาท (รวมหนี้สินที่ถึงกำหนดชำระใน 1 ปี) ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราร้อยละ 50 ของยอดหนี้ค้างชำระสำหรับวงเงินสินเชื่อระยะยาวของ JP-One JP-One มีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2551 จำนวน 2.4 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 11.9 โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 20.3 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารมีจำนวนทั้งสิ้น 13.3 ล้านบาท และ 3.3 ล้านบาท ตามลำดับ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล ) กรรมการผู้จัดการ งานกฎหมายและตลาดหลักทรัพย์ โทรศัพท์ 0-2834-8914 โทรสาร 0-2834-8920