SET Announcements
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร ประจำปี 2551
ที่ กผ.012/ 2552
18 กุมภาพันธ์ 2552
เรื่อง บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2551
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2551
1. รายงานและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานในปี 2551 สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิรวม 437.7 ล้านบาท เมื่อ
เปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 543.3 ล้านบาทในปี 2550 หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 19.4 เนื่องจากได้รับผลกระทบ
จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาและปัญหาทางการเมืองในประเทศ จากการเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
และสนามบินดอนเมืองในระหว่างวันที่ 25 พ.ย.-4 ธ.ค. 2551 เป็นเวลา 10วัน ซึ่งรายละเอียดของผลการดำเนินงาน
ของบริษัทมีดังต่อไปนี้
1.1 รายได้
รายได้รวมสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทประจำปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,127.0 ล้าน
บาท ลดลง 131.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.8 เทียบกับปี 2550 โดยมีรายละเอียดคือ
1.1.1 รายได้ค่าบริการ
รายได้ค่าบริการสำหรับงบการเงินรวมลดลงจากปีก่อนในอัตราร้อยละ 5.8 มาอยู่ที่ 2,058.9
ล้านบาท เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในปี 2551 มีปริมาณลดลงมาอยู่ที่ 4,312.8 ล้านลิตรโดยมีอัตราการ
ลดลงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในปี 2550 ซึ่งประกอบด้วยรายได้ค่าบริการของบริษัท
จำนวน 1,404.3 ล้านบาท รายได้ค่าบริการจากบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) จำนวน
571.6 ล้านบาท และบริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) จำนวน 83.0 ล้านบาท
1.1.2 รายได้ค่าเช่า
รายได้ค่าเช่าสำหรับงบการเงินรวมในปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 19.3 ล้านบาท ลดลง 0.9 ล้าน
บาท หรือร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับปี 2550
1.1.3 รายได้อื่น
รายได้อื่นสำหรับงบการเงินรวมในปี 2551 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 48.8 ล้านบาท ลดลงจากปีที่
ผ่านมาจำนวน 2.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.6 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญ (ก่อนหักรายการระหว่างกัน)
ดังนี้ กำไรจากการขายที่ดินของบริษัทที่ลาดกระบัง เนื้อที่รวม 16 ไร่ 3 งาน 70 ตารางวา จำนวน 14.6 ล้านบาท
รายได้อื่นๆ จากการจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ตามตารางการชำระหนี้และการชำระเงินต้นก่อนกำหนดจาก FPT เป็น
จำนวน 19.7 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับและส่วนลดรับจากตั๋วเงินคลังรวมจำนวน 19.7 ล้านบาท กำไรจากอัตรา
แลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized FX. Gain) จำนวน 2.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการกำไรจากอัตรา
แลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของ TARCO จำนวน 2.5 ล้านบาท จากการทำสัญญาสวอปอัตราแลกเปลี่ยนและ
อัตราดอกเบี้ย (Cross Currency Swap) สำหรับเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ และสำหรับงบการเงินเฉพาะของบริษัท
บริษัทได้รับเงินปันผลรับจำนวน 135.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินปันผลรับจาก TARCO จำนวน 131.2 ล้านบาท และ
JP-One จำนวน 3.8 ล้านบาท
ในปี 2551 ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจาก 34.6 บาท/ ดอลลาร์ในปี 2550
มาอยู่ที่ระดับ 33.6 บาท/ดอลลาร์ จึงส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (Realized FX. Loss) จำนวน
10.9 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (Realized FX. Loss) จำนวน 0.8 ล้านบาทในปี 2550 ทั้งนี้
ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนข้างต้นจำนวน 7.5 ล้านบาทมีสาเหตุจากการคิดค่าบริการในส่วนของธุรกิจเติม
น้ำมันอากาศยานที่ยังคงมีค่าบริการบางส่วนที่บริษัทคิดเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าค่าบริการในธุรกิจคลัง
น้ำมันและธุรกิจท่อส่งน้ำมันอากาศยานแบบ HYDRANTได้ปรับเป็นสกุลเงินบาทแล้วตั้งแต่ตุลาคม 2550 ที่ผ่าน
มา และสำหรับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่เหลือเป็นส่วนที่มาจากเงินกู้ยืมสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ของ TARCO
1.2 ค่าใช้จ่าย
1.2.1 ต้นทุนการให้บริการ
สำหรับงบการเงินรวมในปี 2551 ต้นทุนการให้บริการรวมทั้งสิ้น 941.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.0
ล้านบาทหรือร้อยละ 2.8 จากปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นทุนบริการเพิ่มขึ้นเนื่องมาจาก 1) ค่าเสื่อม
ราคาและค่าตัดจ่ายเพิ่มขึ้น 24.8 ล้านบาท 2) เงินเดือนและค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นจำนวน 20.3 ล้านบาท 3) ค่า
เช่าระบบส่งน้ำมันทางท่อ Hydrant เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาท ทั้งนี้ต้นทุนค่าสัมปทานการให้บริการเติมน้ำมันที่ท่า
อากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ (Airport Concession Fee) ลดลงจำนวน 17.3 ล้านบาทตามการลดลงของปริมาณ
น้ำมันที่บริษัทให้บริการ ประกอบกับค่าเบี้ยประกันภัยในปี 2551 ลดลง5.8 ล้านบาท โดยต้นทุนบริการของ
TARCO และ JP-One มี จำนวน 105.1 ล้านบาท และ 63.3 ล้านบาท ตามลำดับ
1.2.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
สำหรับงบการเงินรวมในปี 2551 มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 326.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
14.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.7 จากปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากรายการหลักคือ 1) ค่าเสื่อมราคาและค่า
ตัดจ่ายเพิ่มขึ้นจำนวน 11.8 ล้านบาท 2) เงินเดือนและค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นจำนวน 8.4 ล้านบาท 3) ค่าใช้จ่าย
ด้านที่ปรึกษาเพิ่มขึ้นจำนวน 2.9 ล้านบาท นอกจากนั้น ค่าใช้จ่ายในการบริหารของ TARCO และ JP-One สำหรับ
ปี 2551 เป็นจำนวน 37.2 ล้านบาท และ 13.2 ล้านบาทตามลำดับ
1.2.3 ดอกเบี้ยจ่าย
สำหรับดอกเบี้ยจ่ายในงบการเงินรวมของปี 2551 มีจำนวน 163.7 ล้านบาท ลดลง 22.5 ล้าน
บาทหรือคิดเป็นร้อยละ 12.1 จากปีที่ผ่านมา โดยเป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่า
ทางการเงินของบริษัทจำนวน 108.4 ล้านบาท นอกจากนั้นเป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจาก
สัญญาเช่าทางการเงินของ TARCO และ JP-One จำนวน 48.9 ล้านบาทและ 6.4 ล้านบาทตามลำดับ
ทั้งนี้ค่าตอบแทนกรรมการรวมทั้งเงินรางวัลพนักงานในปี 2551 ลดลงรวมทั้งสิ้นจำนวน 5.2
ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
1.3 สรุปผลการดำเนินงาน
สำหรับงบการเงินรวม ผลกำไรสุทธิในปี 2551 มีจำนวน 437.7 ล้านบาท ลดลง 105.6 ล้านบาทหรือร้อย
ละ 19.4 จากปี 2550 ที่ผ่านมาซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 543.3 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นๆ ละ 0.86 บาท โดยเป็น
ผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
และสำหรับกำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะของบริษัทสำหรับปี 2551 มีจำนวน 356.2 ล้านบาทโดยลดลง
จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 419.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.0
2. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน
2.1 สินทรัพย์
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 7,060.6 ล้านบาท ลดลง 439.8 ล้านบาท
หรือร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2550 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ดังนี้
2.1.1 กลุ่มบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 454.5 ล้านบาท โดยมี
รายละเอียดการได้มาและใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่สำคัญดังนี้
- กลุ่มบริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 851.3 ล้านบาท เนื่องมาจาก
รายการสำคัญๆ ดังนี้ กำไรสุทธิปี 2551 จำนวน 437.7 ล้านบาท ปรับด้วยรายการที่ทำให้กระแสเงินสดเพิ่มขึ้น
ได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 357.1 ล้านบาท สำรองเผื่อผลประโยชน์พนักงานจำนวน 47.2 ล้าน
บาท ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยตัดจำหน่าย 25.6 ล้านบาท สิทธิในการใช้ที่ดินของบริษัทย่อยตัดจำหน่าย 0.16
ล้านบาท ลูกหนี้การค้าลดลง 59.1 ล้านบาท สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นลดลง 3.9 ล้านบาท
สำหรับรายการที่ทำให้กระแสเงินสดลดลงได้แก่ ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น
จริงจำนวน 2.7 ล้านบาท รายการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 19.7 ล้านบาท กำไรจากการจำหน่าย
สินทรัพย์จำนวน 16.3 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้าและหนี้สินหมุนเวียนอื่นลดลง 36.9 ล้านบาท
- กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 262.3 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นเงินลงทุน
เพิ่มขึ้นในหุ้นของ JP-One โดยมีมูลค่ารวม 300.9 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นใน JP-One ของบริษัท
เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 92.5 เงินสดจ่ายซื้อสิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์ 183.9 ล้านบาท เงินสดรับจากการ
จำหน่ายที่ดินและอุปกรณ์จำนวน 100.8 ล้านบาท เงินลงทุนชั่วคราวลดลง 139.0 ล้านบาท และเงินให้กู้ยืมและ
ลูกหนี้ระยะยาวแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลงจำนวน 19.7 ล้านบาท
- กระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 568.6 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินจ่าย
คืนเงินกู้ยืมระยาวจากธนาคารพาณิชย์ของบริษัทจำนวน 520.0 ล้านบาท และของบริษัทย่อยได้แก่ TARCO
จำนวน 194.4 ล้านบาท และ JP-One จำนวน 24.0 ล้านบาท เงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี
2550 และสำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2551 จำนวนรวม 239.7 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้กู้เงินเพิ่ม
เพื่อซื้อหุ้น JP-One จำนวน 220 ล้านบาท
2.1.2 ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีจำนวน
5,422.6 ล้านบาท โดยเป็นที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์ของ TARCO จำนวน 1,634.5 ล้านบาท และ
JP-One จำนวน 648.6 ล้านบาทตามลำดับ
2.1.3 ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยซึ่งเกิดจากการที่บริษัทซื้อหุ้นของ TARCO ในราคาที่สูง
กว่าราคาทุนเมื่อเดือนสิงหาคม 2546 ทำให้บริษัทต้องบันทึกรายการดังกล่าวเป็นค่าสัมปทานของบริษัทย่อย
จำนวน 768.0 ล้านบาท และตัดจำหน่ายตามอายุสัมปทานเป็นระยะเวลา 30 ปี โดยจะเริ่มตัดจำหน่ายเมื่อ TARCO
เปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยดังกล่าวมีจำนวน
ทั้งสิ้น 710.1 ล้านบาท
2.2 หนี้สิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวมจำนวน 4,069.8 ล้านบาท ลดลง 391.1 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2550 และคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1.36 ต่อ 1 เท่า โดยแบ่งเป็น
รายการสำคัญๆได้ดังนี้
2.2.1 เจ้าหนี้การค้าจำนวน 49.7 ล้านบาท ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
จำนวน 32.1 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าบริษัทอื่นจำนวน 17.6 ล้านบาท
2.2.2 ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 520.0 ล้าน
บาทโดยเป็นส่วนของบริษัทจำนวน 301.6 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 194.4 ล้านบาท และของ JP-One
จำนวน 24.0 ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีจำนวน
11.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของบริษัทจำนวน 8.9 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 2.7 ล้านบาท และของ JP-One
จำนวน 0.9 ล้านบาท ตามลำดับ
2.2.3 หนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 117.2 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ได้แก่ ภาษี
เงินได้นิติบุคคลค้างจ่ายจำนวน 35.1 ล้านบาท เจ้าหนี้อื่นจำนวน 17.3 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน
64.8 ล้านบาท
2.2.4 เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารจำนวน 3,102.4 ล้านบาท ลดลง 301.9 ล้านบาท จากสิ้นปี
2550 หรือคิดเป็นร้อยละ 8.9 โดยประกอบด้วย
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 457.1 ล้านบาท ซึ่งจะครบ
กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเงินต้นปีละ 2 งวด โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.8 ล้านบาท
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,600.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบ
กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.0 ล้านบาท
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน) จำนวน 220.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบ
กำหนดปี 2558 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 6.3 ล้านบาท และชำระคืน
เงินต้นที่เหลือทั้งหมดในงวดสุดท้าย ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเงินต้นงวดแรกในเดือนมีนาคม 2554
- เงินกู้ยืมระยะยาวของ TARCO จำนวน 753.2 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจาก
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแบ่งเป็น เงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐที่ปัจจุบัน TARCO ได้ทำ Currency Swap
เป็นสกุลบาทแล้วจำนวน 163.2 ล้านบาท และเงินกู้สกุลบาทจำนวน 590.0 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืนเป็นราย
ไตรมาส โดยจะครบกำหนดปี 2555
- เงินกู้ยืมระยะยาวของ JP-One จำนวน 72.0 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร
กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีกำหนดชำระคืนเป็นรายเดือน โดยจะครบกำหนดปี 2555
2.3. ส่วนของผู้ถือหุ้น
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 กลุ่มบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 2,990.9 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2550
จำนวน 48.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.6
3. ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต
บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ TARCO ในวงเงินสินเชื่อ 870.0
ล้านบาท และ 8.0 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยอดรวมหนี้สิ้น ณ ปัจจุบันของ TARCO ตามวงเงินข้างต้นมีจำนวน
เท่ากับ 947.6 ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่งปี)
TARCO มีผลกำไรสุทธิในปี 2551 จำนวน 266.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 46.7
โดยมีรายได้จากค่าบริการจำนวน 571.6 ล้านบาท มีต้นทุนดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 105.1
ล้านบาทและ 37.2 ล้านบาทตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ JP-One ตามสัดส่วน
การถือหุ้นในอัตราร้อยละ 50 ของยอดหนี้ค้างชำระสำหรับวงเงินสินเชื่อระยะยาวของ JP-One ตั้งแต่ตอนจัดตั้ง
JP-One โดยยอดค้ำประกันข้างต้น ณ ปัจจุบันมีจำนวนเท่ากับ 48.0 ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่ง
ปี)
JP-One มีผลกำไรสุทธิในปี 2551 จำนวน 1.3 ล้านบาท ลดลง 15.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.8 คิดเป็น
อัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 1.6 ซึ่ง JP-One มีรายได้ทั้งสิ้น 83.0 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนการให้บริการและ
ค่าใช้จ่ายในการบริหารมีจำนวนทั้งสิ้น 63.3 ล้านบาท และ 13.2 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้สาหตุหลักๆ ที่ทำให้
กำไรสุทธิของ JP-One ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจาก 1) รายได้ค่าบริการลดลง 4.9 ล้าน
บาท 2) ค่าเช่าพื้นที่วางท่อน้ำมันที่ต้องจ่ายให้แก่ ทอท. ตั้งแต่ กันยายน 2549 - ธันวาคม 2551 เพิ่มขึ้นรวมจำนวน
4.2 ล้านบาท 3) ค่าเช่าคลังน้ำมันสำหรับการเช่าถังของบริษัทเพิ่มขึ้นจำนวน 3.4 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายการเปลี่ยน
อุปกรณ์กรองน้ำมันในถังน้ำมันเพิ่มขึ้นจำนวน 0.8 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล )
กรรมการผู้จัดการ
งานกฎหมายและตลาดหลักทรัพย์
โทร 02-834-8914
โทรสาร 02-834-8920