SET Announcements

ที่ กผ.116/2552 13 สิงหาคม 2552 เรื่อง บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2552 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2552 1. รายงานและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน แม้ว่ารายได้ของบริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และผลกระทบที่ต่อเนื่องจาก ปัญหาการเมืองภายในประเทศ รวมถึงการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ด้วยความพยายามในการ ควบคุมค่าใช้จ่าย อันมาจากความร่วมมือของฝ่ายบริหารและพนักงานทุกระดับ อาทิเช่น การสมัครใจลดเงินเดือน ตั้งแต่ 5%-20% ของฝ่ายบริหาร การยกเลิกค่าครองชีพและสิทธิประโยชน์สำหรับพนักงาน การปรับลดอัตราค่าทำงาน ล่วงเวลา ฯลฯ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2552 สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิรวม 123.3 ล้านบาท โดยปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 124.2 ล้านบาท ซึ่งลดลง เพียง 1.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.8 และปรับเพิ่มขึ้น 15.2 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่ผ่านมาหรือ คิดเป็นร้อยละ 14.1 และสามารถสรุปรายละเอียดพอสังเขปได้ดังนี้ 1.1 รายได้ รายได้รวมสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทไตรมาส 2 ปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 482.3 ล้าน บาท ลดลง 53.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.0 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2551 โดย 1.1.1 รายได้ค่าบริการ รายได้ค่าบริการสำหรับงบการเงินรวมลดลงจากปีก่อนจำนวน 55.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.6 มาอยู่ที่ 472.5 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2552 มีปริมาณลดลงมาอยู่ที่ 972.7 ล้านลิตร โดยมีอัตราการปรับลดลงถึงร้อยละ 12.1 เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2551 ที่ 1,106.0 ล้านลิตร สำหรับรายได้ค่าบริการรวม (ก่อนหักรายการระหว่างกันนั้น) ประกอบด้วยรายได้ค่าบริการของ บริษัทจำนวน 316.6 ล้านบาท และรายได้ค่าบริการของบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) จำนวน 131.9 ล้านบาท และบริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) จำนวน 23.9 ล้านบาท ตามลำดับ 1.1.2 รายได้อื่น 1.1.2.1 ค่าเช่ารับ ค่าเช่ารับสำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 2 ปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 4.3 ล้านบาท ลดลง 0.7 ล้าน บาท หรือร้อยละ 14.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1.1.2.2 รายได้อื่นๆ รายได้อื่นๆ สำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 2 ปี 2552 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 5.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมาจำนวน 2.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 105.0% โดยมีสาเหตุสำคัญจากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนของ กลุ่มบริษัทที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2551 จำนวน 5.9 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สหรัฐอ่อนค่าลงจาก 32.57 บาท ต่อดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 34.57 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ รายการสำคัญๆ ก่อนหักรายการระหว่างกันในกลุ่มบริษัทสำหรับไตรมาส 2 ปี 2552 มีดังนี้ 1) รายได้จากการจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ตามตารางการชำระหนี้และการชำระเงินต้นก่อนกำหนดจาก FPT เป็นจำนวน 5.5 ล้านบาท 2) รายได้ดอกเบี้ยรับและส่วนลดรับจากตั๋วเงินคลังจำนวน 2.8 ล้านบาท 3) รายได้ค่าธรรมเนียมการค้ำ ประกันจาก บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) และบริษัท เจพี-วัน แอสเซ็ท จำกัด (JP-One) ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ของยอดสินเชื่อค้างชำระจำนวน 2.4 ล้านบาท 1.2 ค่าใช้จ่าย 1.2.1 ต้นทุนการให้บริการ สำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 2 ปี 2552 ต้นทุนการให้บริการรวมทั้งสิ้น 205.2 ล้านบาท ลดลง 17.4 ล้านบาทหรือร้อยละ 7.8 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุนบริการลดลงเนื่องมาจาก 1) เงินเดือนและ ค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจำนวน 9.2 ล้านบาท 2) ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาลดลง 5.6 ล้านบาท และ 3) ต้นทุนค่า สัมปทานการให้บริการเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ (Airport Concession Fee) ลดลงจำนวน 5.1 ล้านบาทตามการลดลงของปริมาณน้ำมันที่บริษัทให้บริการ ทั้งนี้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่ายเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาท โดย ต้นทุนบริการของ TARCO และ JP-One มี จำนวน 26.5 ล้านบาท และ 16.1 ล้านบาท ตามลำดับ 1.2.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร สำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 2 ปี 2552 มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 53.4 ล้านบาท ลดลง 13.1 ล้าน บาท หรือร้อยละ 19.7 จากปีก่อน โดยเป็นผลมาจากความพยายามปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบริษัท โดยสิทธิ ประโยชน์ต่างๆ ของทั้งฝ่ายบริหารและพนักงานทั่วไปรวมทั้งเงินเดือนและค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจำนวน 13.3 ล้าน บาท แม้ว่าค่าใช้จ่ายด้านระบบและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาท ค่าระบบรักษาความปลอดภัยและค่าดูแล พื้นที่เพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่ายเพิ่มขึ้น 0.1 ล้านบาท ฯลฯ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการบริหารของ TARCO และ JP-One จำนวน 7.2 ล้านบาท และ 3.1 ล้านบาทตามลำดับ 1.2.3 ค่าใช้จ่ายทางการเงิน สำหรับค่าใช้จ่ายทางการเงินในงบการเงินรวมของไตรมาส 2 ปี 2552 มีจำนวน 26.1 ล้านบาท ลดลง 14.2 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 35.1 จากปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับลดลง โดยเป็น ดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของบริษัทจำนวน 18.6 ล้านบาท นอกจากนั้น เป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของ TARCO และ JP-One จำนวน 6.5 ล้านบาทและ 1.1 ล้านบาทตามลำดับ 1.3 สรุปผลการดำเนินงาน สำหรับงบการเงินรวม ผลกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2552 มีจำนวน 123.3 ล้านบาท ลดลง 1.0 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 0.8 จากไตรมาส 2 ปี 2551 ที่ผ่านมาซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 124.2 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นๆ ละ 0.24 บาท โดยเป็นผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น และสำหรับกำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะของบริษัทสำหรับไตรมาส 2 ปี 2552 มีจำนวน 69.3 ล้านบาทโดย ลดลงจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 130.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.9 นั้นเนื่องจากการรับรู้เงินปันผลรับจาก TARCO ในปีที่ผ่านมารับรู้ในไตรมาส 2 แต่ปีปัจจุบันบริษัทได้ทำการรับรู้เงินปันผลดังกล่าวแล้วในไตรมาสที่ 1/2552 อย่างไรก็ตามการรับรู้เงินปันผลข้างต้นนี้ไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินรวมของบริษัทแต่อย่างใด นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ได้มีมติอนุมัติให้ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2552 ในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 66.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 33.1 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัท 2. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน 2.1 สินทรัพย์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 6,928.2 ล้านบาท ลดลง 498.6 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับ 31 มีนาคม 2552 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ดังนี้ 2.1.1 กลุ่มบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 715.8 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด การได้มาและใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่สำคัญดังนี้ - กลุ่มบริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 262.6 ล้านบาท เนื่องมาจากรายการ สำคัญๆ ดังนี้ กำไรสุทธิก่อนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสำหรับไตรมาส 2 ปี 2552 จำนวน 129.9 ล้านบาท ปรับด้วยรายการที่ทำ ให้กระแสเงินสดเพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 90.4 ล้านบาท ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยตัด จำหน่าย 7.0 ล้านบาท รายการโอนกลับสำรองเผื่อผลประโยชน์พนักงานจำนวน 9.9 ล้านบาท ลูกหนี้การค้าลดลง 26.7 ล้านบาท สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นลดลง 5.7 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น 20.6 ล้านบาท สำหรับรายการที่ทำให้กระแสเงินสดลดลงได้แก่ หนี้สินหมุนเวียนอื่นลดลง 13.9 ล้านบาท และ จ่ายภาษีเงินได้ 54.1 ล้านบาท - กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 3.6 ล้านบาท โดยเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ระยะยาว แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลงจำนวน 5.5 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 4.2 ล้านบาท เงินสดจ่ายซื้อสิ่งปรับปรุง สินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์จำนวน 2.6 ล้านบาท และเงินสดจ่ายซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำนวน 2.0 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับงบการเงินเฉพาะของบริษัทในไตรมาส 2/2552 บริษัทได้เงินปันผลรับจากผลการดำเนินงานในปี 2551 ของ TARCO และ JP-One เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 75.7 ล้านบาท (รายละเอียดตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 8) และ ในไตรมาสที่ 3/2552 บริษัทจะได้รับเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 52 จาก TARCO อีกจำนวน 58.0 ล้านบาท (รายละเอียดตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 24) - กระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 262.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2551 จำนวน 135.9 ล้านบาท เงินจ่ายคืนเงินกู้ยืมระยาวและชำระหนี้สินตาม สัญญาเช่าทางการเงินจำนวนรวม 107.4 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 19.1 ล้านบาท ตามลำดับ 2.1.2 ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์สุทธิ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีจำนวน 5,232.4 ล้านบาท โดยเป็นที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์ของ TARCO จำนวน 1,604.0 ล้านบาท และ JP-One จำนวน 635.2 ล้านบาทตามลำดับ 2.1.3 ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยซึ่งเกิดจากการที่บริษัทซื้อหุ้นของ TARCO ในราคาที่สูงกว่า ราคาทุน โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีจำนวน 697.4 ล้านบาท 2.1.4 สิทธิการใช้ที่ดินตามสัญญาเช่าซึ่งเกิดจากการที่บริษัทซื้อหุ้นของ JP-One ในราคาที่สูง กว่าราคาทุน โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีจำนวน 0.04 ล้านบาท 2.2 หนี้สิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวมจำนวน 3,828.8 ล้านบาท ลดลง 121.3 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับ 31 มีนาคม 2552 และคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1.24 ต่อ 1 เท่า โดยแบ่งเป็น รายการสำคัญๆได้ดังนี้ 2.2.1 เจ้าหนี้การค้าจำนวน 78.1 ล้านบาท ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 69.3 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าบริษัทอื่นจำนวน 8.8 ล้านบาท 2.2.2 ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 550.0 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของบริษัทจำนวน 331.6 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 194.4 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 24.0 ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีจำนวน 11.4 ล้านบาท ซึ่ง เป็นส่วนของบริษัทจำนวน 8.3 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 2.4 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 0.7 ล้านบาท ตามลำดับ 2.2.3 หนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 101.1 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ได้แก่ ภาษีเงินได้ นิติบุคคลค้างจ่ายจำนวน 60.1 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ จำนวน 41.0 ล้านบาท 2.2.4 เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารจำนวน 2,812.4 ล้านบาท ลดลง 119.5 ล้านบาท จาก 31 มีนาคม 2552 หรือคิดเป็นร้อยละ 4.1 โดยประกอบด้วย - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 406.3 ล้านบาท ซึ่งจะครบ กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเงินต้นปีละ 2 งวด โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.8 ล้านบาท - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,470.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบ กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.0 ล้านบาท - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน) จำนวน 220.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนด ปี 2558 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 6.3 ล้านบาท และชำระคืนเงินต้นที่เหลือ ทั้งหมดในงวดสุดท้าย ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเงินต้นงวดแรกในเดือนมีนาคม 2554 - เงินกู้ยืมระยะยาวของ TARCO จำนวน 656.0 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแบ่งเป็น เงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐที่ปัจจุบัน TARCO ได้ทำ Currency Swap เป็นสกุลบาท แล้วจำนวน 136.0 ล้านบาท และเงินกู้สกุลบาทจำนวน 520.0 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยจะครบ กำหนดปี 2555 - เงินกู้ยืมระยะยาวของ JP-One จำนวน 60.0 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีกำหนดชำระคืนเป็นรายเดือน โดยจะครบกำหนดปี 2555 2.3. ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 กลุ่มบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 3,099.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 31 มีนาคม 2552 จำนวน 2.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.1 3. ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ TARCO ในวงเงินสินเชื่อ 870.0 ล้าน บาท และ 8.0 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยอดรวมหนี้สิ้น ณ ปัจจุบันของ TARCO ตามวงเงินข้างต้นมีจำนวนเท่ากับ 850.5 ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่งปี) TARCO มีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2552 จำนวน 63.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 47.8 โดยมีรายได้จากค่าบริการจำนวน 131.9 ล้านบาท มีต้นทุนดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 26.5 ล้านบาทและ 7.3 ล้านบาทตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทยังมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ JP-One ในอัตราร้อยละ 50 ของยอดหนี้ค้างชำระสำหรับวงเงินสินเชื่อระยะยาวของ JP-One ตั้งแต่ตอนจัดตั้ง JP-One โดยยอดค้ำประกัน ข้างต้น ณ ปัจจุบันมีจำนวนเท่ากับ 42.0 ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่งปี) JP-One มีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2552 จำนวน 3.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 15.9 ซึ่ง JP-One มีรายได้ทั้งสิ้น 23.9 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารมีจำนวนทั้งสิ้น 16.1 ล้านบาท และ 3.1 ล้านบาท ตามลำดับ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ ( หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล ) กรรมการผู้จัดการ งานกฎหมายและหลักทรัพย์ โทรศัพท์ 0-2834-8914 โทรสาร 0-2834-8920