ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
รายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหารประจำไตรมาส 3 ปี 2552
ที่ กผ. /2552
10 พฤศจิกายน 2552
เรื่อง บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 2552
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 2552
1. รายงานและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
แม้ว่ารายได้ของบริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และผลกระทบที่ต่อเนื่องจาก
ปัญหาการเมืองภายในประเทศ รวมถึงการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ด้วยความพยายามในการ
ควบคุมค่าใช้จ่าย อันมาจากความร่วมมือของฝ่ายบริหารและพนักงานทุกระดับ อาทิ การสมัครใจลดเงินเดือนตั้งแต่
5%-20% ของฝ่ายบริหาร การยกเลิกค่าครองชีพและสิทธิประโยชน์สำหรับพนักงาน การปรับลดอัตราค่าทำงาน
ล่วงเวลา ฯลฯ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2552 สำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิรวม
134.8 ล้านบาท โดยปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 129.5 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาท
หรือคิดเป็นร้อยละ 4.1 และปรับเพิ่มขึ้น 11.5 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่ผ่านมาหรือคิดเป็นร้อยละ 9.4
และสามารถสรุปรายละเอียดพอสังเขปได้ดังนี้
1.1 รายได้
รายได้รวมสำหรับงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทไตรมาส 3 ปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 497.7 ล้าน
บาท ลดลง 15.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2551 โดย
1.1.1 รายได้ค่าบริการ
รายได้ค่าบริการสำหรับงบการเงินรวมลดลงจากปีก่อนจำนวน 10.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ
2.2 มาอยู่ที่ 489.0 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2552 มีปริมาณลดลงมาอยู่ที่ 1,008.3
ล้านลิตร โดยมีอัตราการปรับลดลงร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2551 ที่ 1,041.9
ล้านลิตร
1.1.2 รายได้อื่น
1.1.2.1 ค่าเช่ารับ
ค่าเช่ารับสำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 3 ปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 3.7 ล้านบาท ลดลง 1.0 ล้าน
บาท หรือร้อยละ 21.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
1.1.2.2 รายได้อื่นๆ
รายได้อื่นๆ สำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 3 ปี 2552 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 5.0 ล้านบาท ลดลง
จากปีที่ผ่านมาจำนวน 3.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 39.2% ซึ่งกลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนปรับลดลง
เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2551 จำนวน 0.2 ล้านบาท โดยค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 3 ของปี
2552 นี้มีค่าเท่ากับ 34.01 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกันกับค่าเงินบาทในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 34.04 บาทต่อ
ดอลลาร์
1.2 ค่าใช้จ่าย
1.2.1 ต้นทุนการให้บริการ
สำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 3 ปี 2552 ต้นทุนการให้บริการรวมทั้งสิ้น 212.1 ล้านบาท ลดลง
จากไตรมาส 3 ปี 2551 จำนวน 7.0 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 3.2 จากปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุน
บริการลดลงเนื่องมาจาก 1) เงินเดือนและค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจำนวน 5.3 ล้านบาท 2) ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา
ลดลง 1.7 ล้านบาท และ 3) ต้นทุนค่าสัมปทานการให้บริการเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ (Airport
Concession Fee) ลดลงจำนวน 0.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามปริมาณน้ำมันที่ลดลง ทั้งนี้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่าย
เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาท
1.2.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
สำหรับงบการเงินรวมในไตรมาส 3 ปี 2552 มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 48.5 ล้านบาท ลดลง 10.0 ล้าน
บาท หรือร้อยละ 17.1 จากปีก่อน โดยเป็นผลมาจากความพยายามปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดย
สิทธิประโยชน์ต่างๆ ของทั้งฝ่ายบริหารและพนักงานทั่วไปรวมทั้งเงินเดือนและค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจำนวน 4.4
ล้านบาท ค่าใช้จ่ายด้านระบบและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ลดลง 1.2 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่ายลดลง 0.2 ล้าน
บาท
1.2.3 ค่าใช้จ่ายทางการเงิน
สำหรับค่าใช้จ่ายทางการเงินในงบการเงินรวมของไตรมาส 3 ปี 2552 มีจำนวน 25.4 ล้านบาท
ลดลง 15.7 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 38.3 จากปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับลดลง โดยเป็น
ดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของบริษัทจำนวน 18.2 ล้านบาท นอกจากนั้น
เป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของบริษัทในเครือ
1.3 สรุปผลการดำเนินงาน
สำหรับงบการเงินรวม ผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2552 มีจำนวน 134.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาท
หรือร้อยละ 4.1 จากไตรมาส 3 ปี 2551 ที่ผ่านมาที่มีผลกำไรสุทธิ 129.5 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นๆ ละ 0.26
บาท โดยเป็นผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
2. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน
2.1 สินทรัพย์
ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 6,784.7 ล้านบาท ลดลง 143.5 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับ 30 มิถุนายน 2552 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ดังนี้
2.1.1 กลุ่มบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 665.1 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
การได้มาและใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่สำคัญดังนี้
- กลุ่มบริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 211.8 ล้านบาท เนื่องมาจากรายการ
สำคัญๆ ดังนี้ กำไรสุทธิก่อนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสำหรับไตรมาส 3 ปี 2552 จำนวน 141.7 ล้านบาท ปรับด้วยรายการที่ทำ
ให้กระแสเงินสดเพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 91.6 ล้านบาท ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยตัด
จำหน่าย 7.1 ล้านบาท สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นลดลง 8.8 ล้านบาท หนี้สินหมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 15.7 ล้านบาท
สำหรับรายการที่ทำให้กระแสเงินสดลดลงได้แก่ รายการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 3.8 ล้าน
บาท สำรองเผื่อผลประโยชน์พนักงานจำนวน 1.7 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 0.3 ล้านบาท
ลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น 10.4 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้าลดลง 33.2 ล้านบาท และจ่ายภาษีเงินได้ 79.8 ล้านบาท
- กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 1.2 ล้านบาท โดยเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ระยะยาว
แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลงจำนวน 3.8 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 2.6 ล้านบาท และเงินสดจ่ายซื้อสิ่งปรับปรุง
สินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์จำนวน 5.3 ล้านบาท ทั้งนี้สำหรับงบการเงินเฉพาะของบริษัทในไตรมาสนี้ บริษัทได้รับเงิน
ปันผลจากผลการดำเนินงานใน 6 เดือนแรกของปี 52 จาก TARCO จำนวน 58.0 ล้านบาท
- กระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 263.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผล
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2552 จำนวน 66.3 ล้านบาท เงินจ่ายคืนเงินกู้ยืมระยาวและชำระหนี้สินตาม
สัญญาเช่าทางการเงินจำนวนรวม 158.1 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 32.9 ล้านบาท ตามลำดับ
2.1.2 ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์สุทธิ ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มีจำนวน
5,147.8 ล้านบาท ลดลงจาก 30 มิถุนายน 2552 จำนวน 84.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการปรับลดลงร้อยละ 1.6
2.1.3 ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยซึ่งเกิดจากการที่บริษัทซื้อหุ้นของ TARCO ในราคาที่สูงกว่า
ราคาทุน โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มีจำนวน 691.0 ล้านบาท
2.2 หนี้สิน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวมจำนวน 3,616.3 ล้านบาท ลดลง 212.5 ล้านบาท หรือร้อย
ละ 5.5 เมื่อเทียบกับ 30 มิถุนายน 2552 และคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1.14 ต่อ 1 เท่า โดยแบ่งเป็น
รายการสำคัญๆได้ดังนี้
2.2.1 เจ้าหนี้การค้าจำนวน 44.9 ล้านบาท ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกันจำนวน
33.0 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าบริษัทอื่นจำนวน 11.9 ล้านบาท
2.2.2 ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 621.3 ล้านบาท
โดยเป็นส่วนของบริษัทจำนวน 346.6 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 250.7 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 24.0
ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีจำนวน 12.5 ล้านบาท ซึ่ง
เป็นส่วนของบริษัทจำนวน 9.4 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 2.4 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 0.8 ล้านบาท
ตามลำดับ
2.2.3 หนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 81.7 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ได้แก่ ภาษีเงินได้
นิติบุคคลค้างจ่ายจำนวน 32.8 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ จำนวน 48.9 ล้านบาท
2.2.4 เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารจำนวน 2,585.7 ล้านบาท ลดลง 226.7 ล้านบาท จาก
30 มิถุนายน 2552 หรือคิดเป็นร้อยละ 8.1 โดยประกอบด้วย
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 355.6 ล้านบาท ซึ่งจะครบ
กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเงินต้นปีละ 2 งวด โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.8 ล้านบาท
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,405.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบ
กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.0 ล้านบาท
- เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน) จำนวน 220.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนด
ปี 2558 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 6.3 ล้านบาท และชำระคืนเงินต้นที่เหลือ
ทั้งหมดในงวดสุดท้าย ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเงินต้นงวดแรกในเดือนมีนาคม 2554
- เงินกู้ยืมระยะยาวของ TARCO จำนวน 551.2 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร
กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแบ่งเป็น เงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐที่ปัจจุบัน TARCO ได้ทำ Currency Swap เป็นสกุลบาท
แล้วจำนวน 122.4 ล้านบาท และเงินกู้สกุลบาทจำนวน 428.8 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยจะครบ
กำหนดปี 2555
- เงินกู้ยืมระยะยาวของ JP-One จำนวน 54.0 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร
กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีกำหนดชำระคืนเป็นรายเดือน โดยจะครบกำหนดปี 2555
2.3. ส่วนของผู้ถือหุ้น
ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 กลุ่มบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 3,168.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 30 มิถุนายน
2552 จำนวน 69.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.2
3. ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต
บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ TARCO ในวงเงินสินเชื่อ 870.0 ล้าน
บาท และ 8.0 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยอดรวมหนี้สิ้น ณ ปัจจุบันของ TARCO ตามวงเงินข้างต้นมีจำนวนเท่ากับ 801.9
ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่งปี)
นอกจากนี้ บริษัทยังมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ JP-One ในอัตราร้อยละ
50 ของยอดหนี้ค้างชำระสำหรับวงเงินสินเชื่อระยะยาวของ JP-One ตั้งแต่ตอนจัดตั้ง JP-One โดยยอดค้ำประกัน
ข้างต้น ณ ปัจจุบันมีจำนวนเท่ากับ 39.0 ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่งปี)
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล )
กรรมการผู้จัดการ
งานกฎหมายและหลักทรัพย์
โทรศัพท์ 0-2834-8914