การบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

บาฟส์ตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต ดังนั้นจึงเกิดความร่วมมือของประชาคมโลกเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวภายใต้ Paris Agreement ซึ่งเป็นกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) รวมถึงประเทศไทยซึ่งถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกบริษัทต้องให้ความร่วมมือลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 ถึง 2 องศาเซลเซียส
เป้าหมายที่ 13 คือ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UN SDG 13: Climate Action)
BAFS ตระหนักถึงปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงมีการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการลดผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศ ผ่าน Net Zero Plan โดยคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกได้ 20% ภายในปี 2573 ตามเป้าหมายระยะกลาง และการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
การบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
BAFS กำหนดโครงสร้างการกำกับดูแลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นโยบาย เป้าหมาย ตัวชี้วัด รวมถึงความเสี่ยงและโอกาสอย่างชัดเจน โดยครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่กรรมการบริษัทถึงระดับปฏิบัติการ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างมีประสิทธิภาพ
คณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืน (CSC) ซึ่งมีตัวแทนคณะกรรมการบริษัทเป็นประธานคณะทำงาน มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกรอบนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกลุ่มบริษัทและยังมีหน้าที่ติดตามการดำเนินงานของคณะทำงาน BG-Net Zero และ SWG เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 ได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการ CSC จะมีการรายงานผลดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อ คณะกรรมการบริหารของบริษัทรายไตรมาส
คณะทำงานด้านความยั่งยืน (SWG) ซึ่งมีตัวแทนคณะกรรมการบริษัท เป็นประธานคณะทำงาน มีหน้าที่รับผิดชอบการขับเคลื่อนด้านเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การติดตามการดำเนินงานตลอดจนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยคณะทำงาน SWG มีหน้าที่รายงานต่อคณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืน (CSC) รายไตรมาส
บริษัทมีการจัดตั้งคณะทำงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (BG-Net Zero) โดยมี ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และความยั่งยืนเป็นประธาน รวมทั้งตั้งเป้าหมายการลดคาร์บอนและกำหนดปีฐานเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจของกลุ่มบริษัท และจัดทำแผนแม่บทในการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งคณะทำงาน BG-Net Zero จะรายงานความคืบหน้าขอกิจกรรมให้แก่คณะทำงานด้านความยั่งยืน (SWG) ทราบทุกไตรมาส
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (RMC) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง ดูแลการบริหารความเสี่ยงโดยรวมของกลุ่ม BAFS และแต่งตั้งคณะทำงานการกำกับดูแลความเสี่ยงเพื่อระบุ, ประเมิน, ควบคุม และติดตามความเสี่ยงที่สำคัญ รวมถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ ความเสี่ยงที่มีผลกระทบสูงเหล่านี้จะได้รับการจัดประเภทเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจและได้รับการกำกับดูแลโดยตรงจากคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คณะกรรมการตรวจสอบ (AC) จะทำการทบทวนระบบการบริหารความเสี่ยงทุกไตรมาส และคณะกรรมการบริษัทจะได้รับรายงานการบริหารความเสี่ยงทุกไตรมาสเพื่อการรับทราบ
คณะทำงานการกำกับดูแลความเสี่ยง (RWG) ได้ปรับการบริหารความเสี่ยงของกลุ่ม BAFS ให้สอดคล้องกับกรอบงาน COSO ERM โดยมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม, สังคม, การกำกับดูแล (ESG) และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ รายงานประจำไตรมาสที่ส่งถึงคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (RMC) ช่วยให้เกิดความโปร่งใสและสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เส้นทางสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
20%
ลดก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 ภายในปี 2030 (เป้าหมายระยะสั้น)
60%
ลดก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 ในปี 2040 (เป้าหมายระยะกลาง)
Net Zero
ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2050 (เป้าหมายระยะยาว)
กลุ่มบริษัทยังคงส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่องด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และประกาศเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ผ่านกลยุทธ์ "ZERO"
Zero Emission
Energy Transition
Response to nature and low Carbon Society
Opportunity for green portfolio
การจัดทำบัญชีรายงานก๊าซเรือนกระจก
บริษัทฯ จัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางการคำนวณของ IPCC และ อบก. โดยผ่านการทวนสอบจากหน่วยงานภายนอก ครอบคลุมขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขอรับรอง Carbon Footprint Organization (CFO), Carbon Neutral และ Net Zero Pathway จาก อบก. เป็นประจำทุกปี เพื่อยกระดับความยั่งยืน และมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero สำหรับรายการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแต่ละขอบเขตมีรายละเอียด ดังนี้
ขอบเขตที่ 1
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง
- การเผาไหม้เชื้อเพลิง (ดีเซลและเบนซิน)
- การเผาไหม้แบบคงที่ (ดีเซล และ LPG)
- การปล่อยก๊าซที่ไม่สามารถควบคุมได้ (ถังดับเพลิง CO2)
- การบำบัดน้ำเสีย CH4
- สารทำความเย็น R-32, R-134a และ R-410a
- SF6
ขอบเขตที่ 2
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน
- การใช้ไฟฟ้า
ขอบเขตที่ 3
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ
- สินค้าสำเร็จรูปและบริการที่ซื้อ
- การเผาไหม้แบบเคลื่อนที่ (ดีเซล และเบนซิน)
- การเผาไหม้แบบคงที่ (ดีเซล และ LPG)
- การปล่อยก๊าซที่ไม่สามารถควบคุมได้ (ถังดับเพลิง CO2)
- ไฟฟ้า (กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงและพลังงาน)
- การขนส่งและการกระจายสินค้าขั้นต้น (กระดาษและน้ำ)
- ขยะ (ทั่วไปและอันตราย)
- การเดินทางเพื่อธุรกิจ (รถส่วนกลางและเครื่องบิน)
- การเดินทางของพนักงาน
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขตที่ 1, 2 และ 3)
BAFS ดำเนินการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประจำปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 โดยบริษัทมีการจัดรายงานก๊าซเรือนกระจกขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) ครอบคลุมทั้ง Scope 1, 2 และ 3 ในทุกพื้นที่ปฏิบัติงาน ข้อมูลดังกล่าวได้รับการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอก เพื่อยืนยันความถูกต้องและความโปร่งใส นอกจากนี้ BAFS ยังชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมทั้งหมดผ่านคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการรับรอง จนสามารถบรรลุสถานะองค์กรคาร์บอนเป็นกลางได้สำเร็จ
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม เท่ากับ
5,194 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ของปี 2565
6,326 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ของปี 2566
6,777 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ของปี 2567
ขอบเขตที่ 1: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง
ขอบเขตที่ 2: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน
ขอบเขตที่ 3 : การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อปริมาณการบริการน้ำมันอากาศยาน (Carbon intensity)
หน่วย: ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ล้านลิตรของการให้บริการน้ำมันอากาศยาน
ผลการดำเนินงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทในปีปัจจุบันเทียบกับปีฐาน
ในปี 2568 บริษัทได้ดำเนินการติดตามและวิเคราะห์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินของบริษัทในทุกไตรมาส โดยเปรียบเทียบกับปีฐาน 2567 เพื่อประเมินแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้รับยังถูกนำมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนากลยุทธ์ด้านความยั่งยืนขององค์กร และสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนเสริมสร้างความโปร่งใสในการรายงานผลต่อผู้มีส่วนได้เสีย อันเป็นส่วนหนึ่งของเจตนารมณ์ของบริษัทในการบรรลุเป้าหมายด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระยะยาว
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของปีฐาน 2567
100%
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025
50.05%
เทียบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปีฐาน 2567

ขอบเขตที่ 1

ขอบเขตที่ 2

ขอบเขตที่ 3
การเปิดเผยข้อมูลในระดับสากล
BAFS เข้าร่วมการเปิดเผยข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐานสากล เช่น โครงการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอน (Climate Disclosure Project; CDP) และโครงการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate - related Financial Disclosures; TCFD) ซึ่งทั้งสองโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกระทบ ความเสี่ยงและโอกาสในการดำเนินธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว หรือตลอดการดำเนินงานธุรกิจทั้งห่วงโซ่ อีกทั้งยังเป็นการแสดงแนวปฏิบัติที่ดีจากการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศอีกด้วย
ทั้งนี้การบริหารจัดการประเด็นปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทได้กำหนค่าตอบแทนพิเศษจากผลลัพธ์ด้านการลดคาร์บอนที่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร สำหรับพนักงานและผู้บริหารทุกระดับ เพื่อบูรณาการเป้าหมายด้านการลดก๊าซเรือนกระจกเข้ากับการดำเนินงานและขับเคลื่อนความยั่งยืนขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดมาตรฐานประจำปี 2024 ของบริษัท
ในปี 2024 BAFS ถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับ "C" หรือระดับการตระหนักรู้ (Awareness Level) จาก CDP ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม โดยการจัดอันดับนี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญด้านสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังมีการตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากความเสี่ยงและโอกาสทางสิ่งแวดล้อมที่มีต่อธุรกิจ ซึ่งผลการจัดอันดับนี้เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าในด้านการดำเนินการและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศในอนาคต
เพื่อรับมือกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทได้มีการกำหนดค่าตอบแทนพิเศษโดยอิงตามผลลัพธ์จากการลดก๊าซเรือนกระจกซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายกลยุทธ์ขององค์กร โดยครอบคลุมทั้งพนักงานและผู้บริหารทุกระดับ มีการบูรณาการเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่กระบวนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ

ได้รับการจัดอันดับ C หรือเทียบเท่า Awareness Level จาก CDP ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) BAFS ดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานหมุนเวียน และการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ โดยโครงการสำคัญที่ดำเนินการภายใต้แนวทางดังกล่าว ได้แก่




