บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหารสำหรับการดำเนินงานปี 52

ที่ กผ.026/2553 18 กุมภาพันธ์ 2553 เรื่อง บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2552 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2552 1. รายงานและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน แม้ว่ารายได้ของบริษัทและบริษัทย่เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่ 4,312.8 ล้านลิตร สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2552 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 97.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 124.3 จากกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 2551 และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 0.19 บาท เพิ่มขึ้นจาก 0.09 บาท โดยปริมาณน้ำมันที่ให้บริการในไตรมาส 4 ปี 2552 มีจำนวน 1,099.7 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 152.1 ล้านลิตร หรือร้อย ละ 16.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงปลายปี 2551 ปริมาณน้ำมันที่ให้บริการได้รับ ผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองในประเทศจากการเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ในช่วงตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2551 และปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ซึ่งสามารถสรุป รายละเอียดพอสังเขปได้ดังนี้ 1.1 รายได้ รายได้รวมในปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,035.0 ล้านบาท ลดลง 92.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับปี 2551 อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4 ของปี 2552 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 544.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 56.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2551 1.1.1 รายได้ค่าบริการ รายได้ค่าบริการของปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,996.8 ล้านบาท ลดลง 62.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบรายได้ค่าบริการของปี 2551 ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของปริมาณน้ำมันที่ปรับลดลงร้อยละ 4.6 อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4 ปี 2552 รายได้ค่าบริการมีจำนวน 532.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อย ละ 16.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ใกล้เคียงกับอัตราการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันในช่วงเวลาดังกล่าวที่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.0 1.1.2 รายได้อื่น 1.1.2.1 ค่าเช่ารับ ค่าเช่ารับสำหรับปี 2552 มีจำนวน 16.7 ล้านบาท ลดลง 2.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในไตรมาส 4 ปี 2552 ค่าเช่ารับดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 4.1 ล้านบาท ลดลง 0.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1.1.2.2 รายได้อื่นๆ รายได้อื่นๆ ในปี 2552 มีจำนวน 21.4 ล้านบาท ลดลง 27.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.1 เมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ 1) ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายการพิเศษโดยมีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ รวมจำนวน 16.3 ล้านบาท ซึ่งร้อยละ 90 เป็นกำไรจากการขายที่ดินซึ่งมีจำนวน 14.6 ล้านบาท 2) รายได้ดอกเบี้ยรับ และส่วนลดรับจากตั๋วเงินคลังลดลงจำนวน 8.7 ล้านบาท 3) รายได้ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากภาระค้ำประกัน หนี้สินของบริษัทในเครือลดลง 2.0 ล้านบาท เนื่องจากยอดหนี้สินของบริษัทในเครือทยอยปรับลดลงตามกำหนดการ ชำระคืนหนี้ และในปี 2552 บริษัทมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 0.6 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปี ที่ผ่านมาที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 2.6 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐในปี 2552 นี้มีค่าเท่ากับ 34.34 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทในปีก่อนที่ 33.36 บาท ต่อดอลลาร์ โดยในไตรมาส 4 ปี 2552 รายได้อื่นๆ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 8.0 ล้านบาท ลดลงจำนวน 18.0 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 69.4 จากไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา 1.2 ค่าใช้จ่าย 1.2.1 ต้นทุนการให้บริการ ต้นทุนการบริการในปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 895.5 ล้านบาท ลดลง 26.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุนบริการของปี 2552 ลดลงเนื่องมาจาก 1) เงินเดือน และค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจำนวน 17.6 ล้านบาท 2) ค่าเบี้ยประกันภัยลดลง 2.3 ล้านบาท และ 3) ต้นทุนค่าสัมปทาน การให้บริการเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ (Airport Concession Fee) ลดลงจำนวน 5.3 ล้านบาท โดยเป็นไปตามปริมาณน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ตามค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่ายเพิ่มขึ้น 7.2 ล้านบาท โดยต้นทุนการให้บริการ ของไตรมาส 4 ปี 2552 มีจำนวน 253.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2 ล้านบาทหรือร้อยละ 4.2 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่ให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.0 1.2.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ค่าใช้จ่ายในการบริหารในปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 322.4 ล้านบาท ลดลง 23.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.6 เมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุนบริการลดลงเป็นผลมาจากความพยายามปรับลดค่าใช้ จ่ายต่างๆ ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของทั้งฝ่ายบริหารและพนักงานทั่วไปรวมทั้งเงินเดือนและค่าใช้จ่าย พนักงานลดลงจำนวน 2.3 ล้านบาท โดยที่ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่ายเพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาท โดยต้นทุนการให้บริการ ของไตรมาส 4 ปี 2552 มีจำนวน 113.8 ล้านบาท ลดลง 5.9 ล้านบาทหรือร้อยละ 4.9 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 1.2.3 ค่าใช้จ่ายทางการเงิน สำหรับค่าใช้จ่ายทางการเงินของปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 107.0 ล้านบาท ลดลง 56.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.6 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับลดลง ซึ่งเป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ยืม ระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของบริษัทจำนวน 76.4 ล้านบาท นอกจากนั้นเป็นดอกเบี้ยจ่ายจากเงิน กู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงินของบริษัทในเครือ โดยในไตรมาส 4 ปี 2552 ค่าใช้จ่ายดังกล่าวมี จำนวน 24.0 ล้านบาท ลดลง 16.2 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 40.2 จากปีที่ผ่านมา 1.3 สรุปผลการดำเนินงาน กำไรสุทธิในปี 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 463.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3 ล้านบาทหรือร้อยละ 5.8 จากปี 2551 ที่ผ่านมาที่มีผลกำไรสุทธิ 437.7 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นๆ ละ 0.91 บาท โดยกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 2552 มีจำนวน 97.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.7 ล้านบาทหรือร้อยละ 124.3 จากไตรมาส 4 ปี 2551 ที่ผ่านมาที่มีผลกำไร สุทธิ 43.2 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นๆ ละ 0.19 บาท ซึ่งการดำเนินงานของบริษัทเป็นผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 1/2553 มีมติให้ นำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2552 ในอัตรา 0.43 บาทต่อหุ้น คิด เป็นเงินปันผลรวม 219.30 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล (Payout Ratio) ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 58 ของกำไรสุทธิก่อนหักสำรองต่างๆ (เฉพาะบริษัท) โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.13 บาท ต่อหุ้น คงเหลืออีกจำนวน 0.30 บาทต่อหุ้น และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปัน ผลในวันที่ 28 เมษายน 2553 และให้กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 2. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน 2.1 สินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 6,843.6 ล้านบาท ลดลง 217.1 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับ 31 ธันวาคม 2551 ซึ่งประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ดังนี้ 2.1.1 กลุ่มบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 768.8 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด การได้มาและใช้ไปของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่สำคัญดังนี้ - กลุ่มบริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 948.7 ล้านบาท เนื่องมาจากรายการ สำคัญๆ ดังนี้ กำไรสุทธิก่อนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสำหรับปี 2552 จำนวน 490.4 ล้านบาท ปรับด้วยรายการที่ทำให้กระแส เงินสดเพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 365.0 ล้านบาท ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยตัดจำหน่าย 28.1 ล้านบาท สำรองเผื่อผลประโยชน์พนักงานลดลงจำนวน 9.2 ล้านบาท หนี้สินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านบาท และ ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 0.6 ล้านบาท สำหรับรายการที่ทำให้กระแสเงินสดลดลงได้แก่ รายการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 17.7 ล้านบาท สินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้น 50.7 ล้านบาท - กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 2.0 ล้านบาท โดยเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ระยะยาว แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลงจำนวน 17.7 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 11.7 ล้านบาท และเงินสดจ่ายซื้อสิ่งปรับปรุง สินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์จำนวน 23.7 ล้านบาท - กระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 848.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายคืนเงินกู้ยืมระ ยาวและชำระหนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงินจำนวนรวม 530.6 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 109.0 ล้านบาท รวมทั้งมียอดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2551 และครึ่งแรกของปี 2552 รวมจำนวน 193.8 ล้านบาท ตามลำดับ 2.1.2 ที่ดิน สิ่งปรับปรุงสินทรัพย์เช่าและอุปกรณ์สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 มีจำนวน 5,065.8 ล้านบาท ลดลงจาก 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 335.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการปรับลดลงร้อยละ 6.2 2.1.3 ค่าสัมปทานของบริษัทย่อยซึ่งเกิดจากการที่บริษัทซื้อหุ้นของ TARCO ในราคาที่สูงกว่า ราคาทุน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 มีจำนวน 684.5 ล้านบาท 2.2 หนี้สิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวมจำนวน 3,570.9 ล้านบาท ลดลง 498.8 ล้านบาท หรือร้อย ละ 12.3 และคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1.09 ต่อ 1 เท่า ลดลงจาก 1.36 เท่าต่อ 1 เท่าเมื่อเทียบกับหนี้สิน รวมของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 โดยแบ่งเป็นรายการสำคัญๆได้ดังนี้ 2.2.1 เจ้าหนี้การค้าจำนวน 62.1 ล้านบาท ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 41.1 ล้านบาท และเจ้าหนี้การค้าบริษัทอื่นจำนวน 21.0 ล้านบาท 2.2.2 ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจำนวน 655.0 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของบริษัทจำนวน 361.6 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 269.4 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 24.0 ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีจำนวน 12.6 ล้านบาท ซึ่ง เป็นส่วนของบริษัทจำนวน 9.8 ล้านบาท ของ TARCO จำนวน 2.0 ล้านบาท และของ JP-One จำนวน 0.8 ล้านบาท ตามลำดับ 2.2.3 หนี้สินหมุนเวียนอื่นจำนวน 128.3 ล้านบาท ประกอบด้วยรายการสำคัญๆ ได้แก่ ภาษีเงินได้ นิติบุคคลค้างจ่ายจำนวน 55.4 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ จำนวน 72.9 ล้านบาท 2.2.4 เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารจำนวน 2,447.5 ล้านบาท ลดลง 654.9 ล้านบาท จาก 31 ธันวาคม 2551 หรือคิดเป็นร้อยละ 21.1 โดยประกอบด้วย - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 355.6 ล้านบาท ซึ่งจะครบ กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเงินต้นปีละ 2 งวด โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.8 ล้านบาท - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,340.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบ กำหนดปี 2557 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 50.0 ล้านบาท - เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน) จำนวน 220.0 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนด ปี 2558 มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยชำระคืนในแต่ละงวด งวดละ 6.3 ล้านบาท และชำระคืนเงินต้นที่เหลือ ทั้งหมดในงวดสุดท้าย ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเงินต้นงวดแรกในเดือนมีนาคม 2554 - เงินกู้ยืมระยะยาวของ TARCO จำนวน 483.9 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแบ่งเป็น เงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐที่ปัจจุบัน TARCO ได้ทำ Currency Swap เป็นสกุลบาท แล้วจำนวน 108.9 ล้านบาท และเงินกู้สกุลบาทจำนวน 375.0 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืนเป็นรายไตรมาส โดยจะครบ กำหนดปี 2555 - เงินกู้ยืมระยะยาวของ JP-One จำนวน 48.0 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีกำหนดชำระคืนเป็นรายเดือน โดยจะครบกำหนดปี 2555 2.3. ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 กลุ่มบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 3,272.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 281.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.4 3. ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ TARCO ในวงเงินสินเชื่อ 870.0 ล้าน บาท และ 8.0 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยอดรวมหนี้สิ้น ณ ปัจจุบันของ TARCO ตามวงเงินข้างต้นมีจำนวนเท่ากับ 753.3 ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่งปี) นอกจากนี้ บริษัทยังมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ JP-One ในอัตราร้อยละ 50 ของยอดหนี้ค้างชำระสำหรับวงเงินสินเชื่อระยะยาวของ JP-One ตั้งแต่ตอนจัดตั้ง JP-One โดยยอดค้ำประกัน ข้างต้น ณ ปัจจุบันมีจำนวนเท่ากับ 36.0 ล้านบาท (รวมหนี้สินส่วนที่ต้องชำระในหนึ่งปี) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ ( หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล ) กรรมการผู้จัดการ งานกฎหมายและหลักทรัพย์ โทรศัพท์ 0-2834-8914